5. รูปลักษณ์ของธุรกิจภายหลังจากการปรับเปลี่ยน
Business Aspect After Digital
Transformation
ส่วนที่ 2
5.2. Value
Constellation เพื่อการออกแบบแนวคิดของระบบสร้างคุณค่า
ธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็น Collaborative
Model นั้น
อาศัยความสามารถของดิจิทัลเชื่อมโยงกลุ่มที่มีทรัพยากรเพื่อแลกเปลี่ยนกันและร่วมบริการภายใต้เงื่อนไขที่ตกลงกัน
รูปแบบธุรกิจเช่นนี้ทรงพลังมากในการสร้างคุณค่าร่วมกันจากทรัพยากรของแต่ละคน ผลที่ตามมาคือช่วยลดการลงทุนที่เกินความจำเป็นทั้งระบบ
การแข่งขันธุรกิจเปลี่ยนมาสร้างความสัมพันธ์
ใช้สติปัญญาและทักษะแทนการลงทุนด้านสินทรัพย์ทางกายภาพ
ช่วยลดความสิ้นเปลืองในระบบเศรษฐกิจโดยรวม
จึงเป็นรูปแบบธุรกิจที่เหมาะกับแนวคิดของธุรกิจใหม่ที่เน้นการร่วมสร้างคุณค่า
(Value Co-creation) เป็นพื้นฐาน
รูปแบบธุรกิจ Collaborative Model เป็นลักษณะเครือข่าย การออกแบบธุรกิจสามารถใช้ตัวแบบอ้างอิง (Reference
Model) ที่มีกรอบประกอบด้วยส่วนสำคัญ ๆ ตามที่แสดงในรูปที่ 2
ที่ได้อธิบายมาแล้วข้างต้น และใช้ Value Constellation สำหรับออกแบบแนวคิดของธุรกิจ (Conceptual Design) ของธุรกิจรูปแบบใหม่
“Value Constellation” เป็นคำที่บัญญัติขึ้นโดย Richard
Normann และ Rafael Ramirez[1] เพื่ออธิบายถึงระบบธุรกิจยุคใหม่
ที่สื่อความหมายในลักษณะเป็นเครือข่ายของกลุ่มคนที่ร่วมกันสร้างคุณค่า (Value
Network) คำว่า Constellation
มาจากภาษากรีกโบราณ แปลว่ากลุ่มดาวรวมตัวกันที่ถูกมองเห็นเป็นแบบแผน (Pattern)
จนชาวกรีกโบราณนำมาเป็นตัวแทนของเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ ที่น่าสังเกตคือ
ดวงดาวในแต่ละ Constellation ต่างมีวงโคจรอิสระ
จึงเป็นเหตุให้แบบแผน (Pattern) นั้นเปลี่ยนรูปได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
อาจเป็นหลายล้านปี
แต่ละกลุ่มดาวอาจมีดาวดวงหนึ่งเป็นศูนย์กลางของกลุ่มที่ดึงดูดให้ดาวดวงอื่น ๆ
เกาะกลุ่มกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่ดาวดวงหนึ่ง ๆ
เปลี่ยนวิถีโคจรแล้วดีดตัวออกจากกลุ่มหรือเปลี่ยนตำแหน่งใน Constellation ได้ คุณสมบัติของกลุ่มดาวนี้ Normann และ
Ramirez นำมาใช้อธิบายการรวมตัวของกลุ่มธุรกิจในระบบสร้างคุณค่าแบบ Collaborative
Model
และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อออกแบบแนวคิดของระบบสร้างคุณค่า
หรือระบบธุรกิจใหม่ในยุคการปรับเปลี่ยนดิจิทัล
5.2.1
โครงสร้างของ Value
Constellation
Value Constellation ถูกนำมาใช้เป็นผังแสดงรูปเครือข่ายของระบบธุรกิจในเชิงแนวคิด
ประกอบด้วย ตัวละคร (Actor) หรือระบบบริการ (Service System[2]) หรือเอนทิตี้ (Entity)
ซึ่งอาจหมายถึงคน หรือระบบงาน หรือทรัพยากรอื่น ๆ
ที่จะอธิบายในรายละเอียดต่อไป พูดอีกนัยหนึ่ง เป็นผังที่แสดงถึงความสัมพันธ์ (Relationship)
ระหว่างผู้ที่มีส่วนได้เสีย
โดยผู้มีส่วนได้เสียนี้แสดงเป็นรูปวงกลมหรือวงรีในผัง
ความสัมพันธ์ที่กล่าวแสดงด้วยเส้นตรงระหว่างตัวละครสองตัว
สื่อความหมายถึงความสัมพันธ์ในเชิงที่ฝ่ายหนึ่งมีข้อเสนอ (Value
Proposition) ให้อีกฝ่ายหนึ่ง
หรือบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ในเชิงบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบที่มีระหว่างกัน
ธุรกิจแบบ Collaborative Model เริ่มด้วยอย่างน้อยมีตัวละครหนึ่งคู่
โดยตัวละครแต่ละตัวทำหน้าที่ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ทั้งคู่ทำหน้าที่เป็น
Value Co-creators ตามที่แสดงในรูปที่ 3
รูปที่ 3 แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง Actors
หนึ่งคู่ภายในเครือข่ายสร้างคุณค่า
ตัวละครแต่ละตัวใน Value
Constellation เป็นคนทำงาน หรือระบบงาน หรืออุปกรณ์เครื่องจักรใด ๆ
ที่มีทั้ง Operand Resources และ Operant Resources พร้อมที่จะทำประโยชน์ให้เกิดคุณค่าแก่ตัวละครอีกตัวหนึ่ง จากตัวอย่างของบริษัทจำหน่ายเครื่อง
PM2.5 Detector ในตอนก่อน Actor A อาจหมายถึงบริษัทที่จำหน่ายอุปกรณ์
ในขณะที่ Actor B คือลูกค้า
และข้อเสนอที่กำกับไว้ที่ลูกศรหมายถึงการเสนอขายเครื่อง PM2.5
Detector ผัง Value
Constellation
ของระบบสร้างคุณค่าชุดหนึ่งประกอบด้วยตัวละครกลุ่มหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กันตามบริบท
ใช้สื่อสารแนวคิดของการทำธุรกิจรูปแบบใหม่
เพื่อนำไปใช้เป็นกรอบการออกแบบระบบบริการ (Service System) และบริการ
(Service) ต่อไป
เพื่อให้ง่ายต่อการออกแบบ
Value
Constellation เราอาจกำหนดแบบอย่างเฉพาะ (Design Patterns[3]) เป็นชุด ๆ
เพื่อนำมาประกอบเป็น Value Constellation ที่สมบูรณ์ได้ Design Patterns เพื่อออกแบบ
Value Constellation ตามตัวอย่างธุรกิจจำหน่าย PM2.5 และการดูแลสุขภาพของลูกค้า อาจมีรูปแบบดังนี้ (เลือกนำมาจาก
Design Pattern ชุด KWG Value Constellation Design
Patterns)
1) KWG
Horizontal Collaboration Design Pattern
เป็นเครือข่ายประกอบด้วยกลุ่มผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าและบริการที่แตกต่างกัน
โดยสินค้าและบริการเหล่านี้เป็นทรัพยากรจำเป็นต่อกระบวนการสร้างคุณค่าของลูกค้า
อย่างไรก็ตาม Design Pattern ชุดนี้กำหนดว่า
ผู้ประกอบการอื่น ๆ จะไม่บริการลูกค้าโดยตรง แต่จะทำผ่านผู้ประกอบการหลักที่เป็นเจ้าของลูกค้ารายนี้เท่านั้น
ตามที่แสดงในรูปที่ 4 ในกรณีนี้ ผู้ประกอบการทำหน้าที่ให้บริการแบบ
Horizontal Integration
รูปที่
4.
KWG Horizontal Collaboration Design Pattern
Design Pattern ชุดนี้นำมาใช้ออกแบบส่วนหนึ่งของธุรกิจตัวอย่าง
คือส่วนที่บริษัทที่จำหน่ายอุปกรณ์ PM2.5 Detector ต้องการบริการลูกค้าด้วยอุปกรณ์และอะไหล่เสริม
เช่นเครื่องกรองอากาศ ไส้กรองอากาศ หน้ากากกันฝุ่น ฯลฯ
บริษัทสามารถทำสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายกับผู้ประกอบการเหล่านี้
โดยสินค้าเสริมทั้งหมดจะต้องขายผ่านบริษัทเท่านั้น
2) KWG
Competence Co-location Design Pattern
Design Pattern ชุดนี้ใช้สำหรับกรณีที่ธุรกิจต้องบริการลูกค้าจำนวนมากที่กระจายอยู่ในพื้นฐานต่าง
ๆ เป็นบริเวณกว้าง ในขณะที่การบริการต้องใช้ความชำนาญพิเศษ เช่นการซ่อมเครื่องปรับอากาศ
ซึ่งการเดินทางเพื่อบริการลูกค้าต้องตอบสนองได้รวดเร็ว
วิธีหนึ่งคือสร้างเครือข่ายของศูนย์บริการร่วมกับพันธมิตรที่มีความชำนาญประเภทเดียวกัน
รวมตัวกันเป็นทีมเดียวกัน เพื่อรับหน้าที่ให้บริการตามความเหมาะสม ผังแสดง Design
Pattern มีลักษณะตามที่แสดงในรูปที่ 5
รูปที่ 5 KWG Competency
Co-location Design Pattern
Design
Pattern ชุดนี้นำมาใช้ออกแบบส่วนหนึ่งของธุรกิจตัวอย่าง
คือส่วนที่บริษัทเปิดให้บริการบำรุงรักษาอุปกรณ์ เช่นเครื่องกรองฝุ่น
เครื่องปรับอากาศ การเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ฯลฯ
โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการประเภทเดียวกันสร้างเป็นเครือข่าย
ใช้ระบบการออกใบสั่งงานและการคิดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ใช้คอมพิวเตอร์แบบเชื่อมโยงกัน
เพื่อให้การทำงานบริการลูกค้าของสมาชิกเครือข่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3) KWG
Shared Service Platform Design Pattern
ในกรณีที่บริษัทต้องการพัฒนาศักยภาพด้านบริการต่าง
ๆ เพื่อบริการลูกค้า เช่นพัฒนาความสามารถในการใช้ข้อมูลเชิงพยากรณ์เกี่ยวกับแนวโน้มของธุรกิจ
และใช้ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลปรับปรุงบริการลูกค้าให้ดีขึ้น
แทนที่บริษัทจะลงทุนทำเองคนเดียว ซึ่งอาจสิ้นเปลืองทั้งเงินทุนและเวลา
วิธีหนึ่งคือร่วมมือกับพันธมิตรที่มีประสบการณ์พัฒนาศักยภาพดังที่กล่าว
การร่วมมือกันลักษณะนี้เป็นผลดีแก่ลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง
เพราะบรรดาสมาชิกในเครือข่ายจะสามารถพัฒนาบริการใหม่ ๆ
ที่ช่วยการบริหารงานและการบริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องดังที่แสดงในรูปที่ 6
รูปที่ 6. KWG Shared
Service Platform Design Pattern
จากตัวอย่างการจัดจำหน่ายอุปกรณ์และบริการเกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์ฝุ่น
PM2.5
บริษัทต้องการพัฒนา Mobile App ที่ให้บริการลูกค้าด้านข้อมูลและสถานภาพของฝุ่น
PM2.5 ของแต่ละช่วงเวลา อีกทั้งพัฒนาบริการดิจิทัลอื่น ๆ
ที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพผ่านระบบดิจิทัล จึงได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและด้านวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
นอกจากนี้ยังเชิญชวนโรงพยาบาลมาเป็นพันธมิตรในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการด้านการแพทย์ที่เกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ
เพื่อร่วมกันส่งเสริมการให้บริการในสาขาต่าง ๆ
ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลตามที่แสดงในรูปที่ 6
สังเกตได้ว่า
Value
Constellation Design Pattern แต่ละชุดเป็นบริการเฉพาะเรื่องที่กำหนดขึ้นเป็น
Solution เพื่อบริการลูกค้าในสถานการณ์หนึ่ง ๆ เมื่อนำส่วนย่อยของ Value Constellation
เหล่านี้มารวมตัวกัน (Re-configuration) ก็จะได้ระบบสร้างคุณค่าตามวัตถุประสงค์ รูปที่ 7 แสดง Value
Constellation ของธุรกิจขายเครื่อง PM2.5 และบริการอื่น
ๆ ด้วยวิธีออกแบบที่ใช้ Design Patterns ดังกล่าว
รูปที่
7. Value Constellation ของธุรกิจที่จำหน่ายอุปกรณ์และบริการที่เกี่ยวกับ
PM2.5
รูปที่ 7 แสดงผังของ Value Constellation เต็มรูปแบบของธุรกิจตัวอย่างที่จำหน่ายอุปกรณ์และบริการอื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการดูแลสุขภาพในสภาวการณ์ที่มีฝุ่นหนาแน่น เครือข่ายส่วนแรกประกอบด้วยตัวแทนจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการจัดการอากาศให้บริสุทธิ์
เช่นเครื่องกรองอากาศ ไส้กรองอากาศ อุปกรณ์วัดปริมาณฝุ่น
รวมทั้งอะไหล่ที่ใช้บำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศและเครื่องกรองอากาศ
เครือข่ายส่วนที่สอง ประกอบด้วยกลุ่มพันธมิตรที่ให้บริการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ
รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญบริการทางการแพทย์ที่รักษาโรคที่เกี่ยวกับฝุ่น
และเครือข่ายส่วนที่สาม
เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริการด้านข้อมูลเรื่องปริมาณฝุ่นในบรรยากาศ
และสถานภาพเกี่ยวกับปริมาณฝุ่นตามสถานที่ต่าง ๆ ณ เวลาหนึ่ง ๆ ตัวอย่างของธุรกิจแบบ
Collaborative Model นี้
ธุรกิจจะลงทุนน้อยแต่ให้บริการได้มากและกว้าง
จากการใช้ทรัพยากรของพันธมิตรที่มีอยู่มาร่วมสร้างธุรกิจและแบ่งปันผลประโยชน์กันตามหน้าที่อย่างยุติธรรม
ส่วนลูกค้าก็จะได้รับบริการด้านเข้าถึงทรัพยากรทั้ง Operand and Operant Resources
ที่จำเป็นต่อการสร้าง Value-in-use
ได้อย่างสมบูรณ์และครบถ้วน
5.2.2
การปรับองค์ประกอบของระบบธุรกิจ
(Reconfigure
the Business System)
เมื่อธุรกิจได้ปรับเปลี่ยนมาเน้นสนับสนุนการสร้างคุณค่าให้ลูกค้าด้วยวิธีระดมทรัพยากรจากพันธมิตร
โดยมีธุรกิจเป็นศูนย์กลางของ Value Constellation นั้น
สังเกตว่าตัวโครงสร้างของเครือข่ายจะไม่อยู่นิ่ง
มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ทั้งจากตัวธุรกิจเอง จากพันธมิตร และตัวลูกค้า
เนื่องจากเป็นเครือข่ายที่เกาะกลุ่มกันอย่างหลวม ๆ
โดยตัวละครแต่ละตัวเป็นอิสระในการตัดสินกลยุทธ์ของตนเอง แต่เนื่องจากธุรกิจเป็นศูนย์กลางของ
Value Constellation จึงทำให้ต้องทำหน้าที่จัดการการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของธุรกิจ
ซึ่งก็คือองค์ประกอบของระบบสร้างคุณค่านั่นเอง
ความสามารถจัดการกับการปรับโครงสร้างของ Value Constellation ทำให้ธุรกิจมีโอกาสได้พัฒนาธุรกิจของตนเองอย่างไม่สิ้นสุด
โดยเฉพาะโอกาสที่จะพัฒนาข้อเสนอเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงจากความต้องการใหม่ ๆ
ของลูกค้าหรือส่วนตลาด (Market Segment)ได้อย่างใกล้ชิด
การที่ลูกค้าเป็นส่วนหนี่งของ
Value Constellation เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รับรู้ว่ากลุ่มธุรกิจมีทรัพยากรและมีอะไรดีบ้าง
โดยธรรมชาติแล้ว ลูกค้ามักจะรู้ความต้องการใหม่ ๆ หลังจากรู้ว่ากลุ่มธุรกิจมีอะไรที่จะนำเสนอ
และในระบบธุรกิจใหม่นี้ เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้พัฒนาความต้องการของตนเองอยู่ตลอดเวลา
เมื่อธุรกิจเรียนรู้ความต้องการใหม่ของลูกค้า ก็สามารถปรับหรือเปลี่ยนหรือเพิ่มตัวละครที่มีทรัพยากรที่เหมาะสมไปเรื่อย
ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ ของลูกค้าได้
ระบบธุรกิจหรือระบบสร้างคุณค่าที่ถูกออกแบบให้ทำงานแบบ Value Constellation
ที่กล่าวจึงสามารถรับมือกับกลุ่มลูกค้าที่ไดนามิกส์หรือมีพลวัตสูงมาก
ในอีกด้านหนึ่ง การปรับโครงสร้าง (Reconfiguration)
ของ Value Constellation อาจเกิดจากกลยุทธ์ของบริษัทเอง
การที่ธุรกิจเป็นศูนย์กลางของ Value Constellation นั้นเปิดโอกาสได้รับรู้แนวโน้มความต้องการของตลาดและพัฒนาการของทรัพยากรทั้งในกลุ่ม
Operand Resources และ Operant Resources ที่จะช่วยให้ออกแบบกรอบของธุรกิจให้กว้างขวางออกไปทั้งกว้างและไกลไปข้างหน้าได้
(Upframe Business Opportunity) แล้วออกแบบ Value
Constellation ที่ครอบคลุมข้อเสนอในกรอบใหญ่ตามความต้องการใหม่ ๆ
เปิดโอกาสให้ธุรกิจพัฒนาธุรกิจให้กว้างขวางออกไป อย่างไรก็ตาม ธุรกิจไม่จำเป็นต้องทำธุรกิจครอบคลุมบริการลูกค้าครบทุกมิติตามกรอบใหญ่ในทันที
การจะขีดกรอบว่าธุรกิจต้องการให้บริการลูกค้าหรือตลาดเพียงส่วนหนึ่งส่วนใดนั้น
ขึ้นอยู่ที่ความพร้อมและยุทธศาสตร์ของธุรกิจเอง ธุรกิจมีความคล่องตัวอย่างมากในการตัดสินใจว่าจะขยายหรือลดขอบเขตการทำธุรกิจได้ตลอดเวลา
ตามทิศทางการแข่งขันและโอกาสของธุรกิจได้อย่างเหมาะสมด้วยการปรับโครงสร้างของ Value
Constellation หรือองค์ประกอบของระบบธุรกิจนั่นเอง
การปรับเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Transformation) เป็นหัวข้อใหญ่ที่จะบรรยายในโอกาสต่อไป
เราใช้คำว่า
Value Constellation สื่อความหมายเป็นรูปแบบของธุรกิจที่รวมตัวกันโดยตัวละคร
(Actors) เพื่อร่วมกันสร้างคุณค่า เปรียบเสมือนกลุ่มดาว (Constellation)
ที่เกาะกลุ่มกันบนท้องฟ้า
ทำให้คนเราบนพื้นโลกจินตนาการเป็นเทพเจ้าต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อและการดำรงอยู่ของมนุษย์ในแต่ละสมัย
ในทางธุรกิจ Value Constellation ถูกใช้เป็นแบบแผนในการกำหนดรูปแบบของธุรกิจในลักษณะเป็นเครือข่ายที่มีอิทธิพลต่อคุณค่าที่จะเกิดขึ้นแก่ลูกค้า
ดวงดาวในกลุ่มดาวบนท้องฟ้าต่างมีวงโคจรอิสระ
จึงเป็นเหตุให้แบบแผนนั้นเปลี่ยนรูปได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในทางธุรกิจ
ตัวละครแต่ละตัวก็เหมือนดวงดาวในกลุ่มดาวบนท้องฟ้า ทำธุรกิจอย่างเป็นอิสระเช่นกัน
คือเข้ามาร่วมมือกันกับเครือข่ายเฉพาะในช่วงเวลาที่เป็นประโยชน์กับตนเองในขณะที่ตนเองก็ยังมีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์แก่สมาชิกอื่น
ๆ ด้วย เมื่อไรที่ประโยชน์ข้างหนึ่งข้างใดไม่เกิดขึ้น
ก็ไม่มีเหตุอันควรที่จะคงความสัมพันธ์กันต่อไป ไม่ต่างจากดวงดาวที่ถึงเวลาหนึ่งอาจเปลี่ยนวิถีโคจรแล้วดีดตัวออกจากกลุ่มหรือเปลี่ยนตำแหน่งในกลุ่มดาวได้
จึงเห็นได้ว่าระบบธุรกิจแนวใหม่แบบ Collaborative Model
นี้มีคุณสมบัติคล้ายกับกลุ่มดาว (Constellation) บนท้องฟ้า
ที่มีการปรับเปลี่ยนหรือ Reconfiguration ไปตามความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันระหว่าง
Actors นี่เป็นเหตุที่ Normann และ
Ramirez ได้บัญญัติคำว่า “Value Constellation” มาใช้เรียกรูปแบบธุรกิจที่เชื่อมโยงกันเป็นกลุ่มเพื่อร่วมกันสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง
การปรับเปลี่ยนธุรกิจในยุคดิจิทัล
เป็นผลให้ธุรกิจเปลี่ยนแนวทางการบริหารจากเดิมที่มุ่งเน้นสร้างศักยภาพเพื่อจัดการทรัพยากรขององค์กรให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด
มาเป็นจัดการทรัพยากรของพันธมิตรเพื่อสนับสนุนลูกค้าในกระบวนการสร้างคุณค่า
เป็นธุรกิจแบบระบบเครือข่ายที่มุ่งจัดการระบบสร้างคุณค่าในแบบCollaborative
Model จากตัวอย่างของธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ PM2.5 Detector ที่ได้นำเสนอมา
แนวคิดการทำธุรกิจของบริษัทที่ต้องการบริการดูแลสุขภาพที่ปลอดจากฝุ่นแบบครบวงจรนั้น
ต้องอาศัยระบบสร้างคุณค่า (Value Creating System) ที่เน้นสร้างเครือข่ายด้านผู้ประกอบการที่มีทรัพยากรทั้งแบบ
Operand และ Operant ต้องออกแบบธุรกิจที่สอดคล้องกับกระบวนการสร้างคุณค่า
(Value Creation Process) ของลูกค้า อีกทั้งต้องออกแบบ Interfaces
ใหม่ ๆ ที่ทำให้การปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งหลายสามารถ Co-produce
และ Co-create ภายในกรอบของ Value
Constellation ได้
การเรียนรู้ความต้องการของฝั่งลูกค้าต้องรวมทั้งกระบวนการสร้างคุณค่าของกลุ่มลูกค้าของลูกค้าด้วย
จากภาพของ Value
Constellation ในรูปที่ 7 สะท้อนให้เห็นตัวละครทั้งหมดและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่นำไปสู่การสร้างคุณค่า
ทำให้เราเห็นแนวคิดของธุรกิจใหม่ที่นำเสนอในลักษณะโครงสร้างของระบบสร้างคุณค่าในมุมมองของตลาดหนึ่งตลาด
การนำเสนอรูปลักษณ์ของระบบสร้างคุณค่าเป็น Value Constellation ทำให้ธุรกิจสามารถปรับรูปแบบ (Reconfigure) ของ Value
Constellation ให้เหมาะกับตลาดส่วนอื่น ๆ (Market Segments) ด้วยการยุบหรือเพิ่มข้อเสนอได้ตลอดเวลาตามกลยุทธ์ของธุรกิจ ผลของการออกแบบระบบสร้างคุณค่า
หรือระบบธุรกิจแนวใหม่นี้ด้วยแนวคิดของ Value Constellation จะถูกนำไปขยายผลเป็นรายละเอียดเพื่อออกแบบระบบบริการ
(Service Systems) และออกแบบบริการต่าง ๆ
ที่จะนำเสนอในหัวข้อต่อ ๆ ไป
[1]
Normann,
Richard., Ramirez, Rafael, “Designing Interactive Strategy: From
Value Chain to Value Constellation,” John Wiley & Sons, New York, 1998.
[3]
Value Constellation Design Pattern เป็นเครื่องมือช่วยนักออกแบบธุรกิจยุคใหม่
เกิดจากการสะสมประสบการณ์ของผู้ที่เคยออกแบบระบบธุรกิจสมัยใหม่ ชุดแรกที่จะนำมาเสนอนี้
เรียบเรียงและปรับปรุงจากบทความ “Any way goes: Identifying value
constellations for service infusion in SMEs” โดย Kowalkowski,
Witell, and Gustafsson จึงขอตั้งชื่อ Design Pattern
ชุดนี้ว่า KWG Value Constellation Design
Patterns ถ้าท่านใดในอนาคตอันใกล้จะกรุณาเสนอ Design
Pattern ใหม่ ๆ จากประสบการณ์ของท่านเอง นำมารวมกันเป็น “Creative
Common, CC” เพื่อแบ่งปันกันใช้ Design Pattern ของท่านก็จะถูกตั้งชื่อด้วยคำนำหน้าเป็นชื่อย่อของท่านที่เป็นเจ้าของ